WELCOME TO AROKAYA HOUSE http://arokayahouse.siam2web.com/

ห่างไกลโรคา ที่บ้านอโรคยา

 

  (porduct) 2009513_14219.jpg

 


                ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ คงไม่มีใครปฏิเสธสัจจะข้อนี้เป็นแน่ แต่จะมีสักกี่คนที่โชคดีได้ลาภอันประเสริฐนี้บ้าง ยิ่งวิถีชีวิตคนยุคใหม่ที่ทุกอย่างดูจะเร่งรีบไปหมด เวลาที่จะดูแลเอาใจใส่คนรอบข้างหรือแม้แต่ตัวเองก็มีน้อยลง ทำให้โรงพยาบาลกลายเป็นจุดหมายปลายทางที่หลายๆคนแห่กันไปโดยไม่ได้สมัครใจสักเท่าไหร่ ความจริงแล้ว เราทุกคนสามารถหลีกเลี่ยงภาวะแบบนั้นได้หรือไม่  MidWeek ได้ไปคุยกับ คุณศรีฟ้า ชวนนทกิจ เจ้าของบ้าน "อโรคยา"ในอาณาบริเวณร่มรื่นท้ายซอยเทียมพร ถนนนวมินทร์ซี่งครึ้มไปด้วยพืชสมุนไพรและผักพื้นบ้าน เธอให้คำตอบที่น่าสนใจ

                "ตั้งแต่เป็นเด็กมา ที่บ้านไม่มีคนป่วยเลย ไม่มีใครเจ็บป่วยถึงขั้นต้องไปรักษาที่โรงพยาบาลเพราะว่าคุณพ่อคุณแม่เลี้ยงลูกด้วยสมุนไพรและของพื้นบ้านมาตลอด อย่างมากก็แค่เป็นหวัด ซึ่งถ้าเป็นหวัดท่านก็จะเก็บยาสมุนไพรข้างๆบ้านมาต้มกิน แค่นั้นก็หายแล้ว หรือทำงานเหนื่อยๆมาก็ได้น้ำตะไคร้ดื่ม ช่วยแก้ปวดแก้เมื่อยได้ทุกอย่างเลย" คุณศรีฟ้าเล่าให้ฟังถึงความประทับใจในวัยเด็ก ซึ่งทำให้ตัวเธอเองสานใจศึกษาค้นคว้าเรื่องสมุนไพรและยาแผนโบราณอย่างลึกซึ้งจริงจังในเวลาต่อมา จนกระทั่งได้ก่อตั้งบ้านอโรคยาเป็นสถานที่ค้นคว้าและให้คำปรึกษาแนะนำด้านสุขภาพและยาแผนไทย รวมทั้งมีผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพภายใต้แบรนด์ "อโรคยา"ตามมาในเวลาต่อมา

                จากภูมิปัญญาที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษซึ่งเป็นหมอยา ผสานกับการได้เข้าเรียนในหลักสูตรแพทย์แผนไทยของกระทรวงสาธารณสุข ทำให้คุณศรีฟ้ามีความคิดอยากทำสถานที่สำหรับถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ในด้านนี้ขึ้นมา "เห็นว่าที่โรงพยาบาลมีคนป่วยเยอะมากจนน่าตกใจ โรคต่างๆในสมัยนี้ก็น่ากลัว เลยคิดว่าจะไปเรียนเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องสมุนไพรเพื่อจะได้สืบต่อความรู้ที่ได้รับถ่ายทอดมาตั้งแต่เด็ก ไม่อยากให้มันสูญไป ก็เลยไปเรียนแพทย์แผนไทยหลักสูตร 3ปี จากนั้นก็เริ่มโครงการบ้านอโรคยาประมาณปลายปีที่แล้ว เรามีแนวคิดอยากให้เป็นที่สำหรับ "ยาขอหมอวาน" คือ ใครมาหาเราก็มียาให้ เราไม่ได้ถึงกับเป็นหมอเก่ง แต่ใครมาปรึกษาเรื่องสุขภาพเราก็ช่วยได้ ช่วยแบบไม่ต้องเสียเงิน เราแนะนำได้ว่าใช้สมุนไพรตัวไหนดี ตอนนี้ก็มีคนมาเป็นประจำ มาถามคำถามที่เขาสนใจอยากรู้ มาซื้อผลิตภัณฑ์ไปใช้"

                ผลิตภัณฑ์ที่กล่าวถึงนี้คือ ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ เช่น น้ำสมุนไพรหลายขนานซึ่งเธอกล่าวว่าไม่อยากจะเรียกว่า ยา หรือ ยาบำรุง เพราะเหมาะที่จะเรียกว่า "อาหาร" มากกว่า สามารถรับประทานได้เรื่อยๆเป็นการสร้างความสมดุลให้กับระบบของร่างกายไม่ได้มุ่งให้รับประทานเมื่อเจ็บป่วย แม้ว่าจะสามารถบำบัดอาการเจ็บป่วยก็ตาม "เราเริ่มจากการทดลองทำน้ำเอนไซม์มาประมาณ 7-8 ปี ทดลองใช้เองและให้คนอื่นทดลองใช้ก็ได้ผลดี เอนไซม์ที่ว่านี้เรานำมาใช้ทำผลิต

ภัณฑ์ได้ทั้งของใช้และของที่ทานได้ ของใช้ เช่นยาสระผม น้ำยาอาบน้ำ น้ำยาชะล้างทำความสะอาด เช่น น้ำยาล้างจาน ถ้าเป็นของที่รับประทานได้ เราจะนำเอนไซม์มาทำหัวเชื้อตั้งต้น แล้วแต่ว่าเราจะทำอะไรก็นำเอนไซม์มาหมักกับสิ่งนั้น เช่น สินค้าเริ่มแรกของเราเป็นน้ำลูกยอ เราก็นำหัวเชื้อตั้งต้นมาหมักกับน้ำลูกยอ เรียกว่า นำหัวเชี้อไปปรุงกับสมุนไพรตัวไหนก็จะได้สรรพคุณเพิ่มขึ้นจากคุณสมบัติของสมุนไพรแต่ละตัวนั้น" ปัจจุบันบ้านอโรคยามีผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ 6 ชนิด ได้แก่ น้ำยาบ้วนปากสูตรกานพลูผสมเกล็ดสะระแหน่

                น้ำลูกยอ ซึ่งช่วยบำรุงธาตุ เสริมสร้างภูมิต้านทานของร่างกาย  น้ำสมุนไพรกระชายดำ ช่วยการทำงานของระบบประสาท ระบบหมุนเวียนโลหิต เป็นยาอายุวัฒนะ  น้ำสมุนไพรว่านชักมดลูก ช่วยปรับสมดุลระบบภายในของสตรี น้ำสมุนไพรเบญจคุณ ช่วยระบบการขับถ่าย และล่าสุดเป็นน้ำสมุนไพรจตุผลาธิกะ ผลไม้ให้คุณ 4 อย่าง ซึ่งคุณศรีฟ้านำความรู้จากพระไตรปิฏกในพระพุทธศาสนามาปรุงเป็นเครื่องดื่มบำรุงธาตุ ปรับความสมดุล ช่วยระบบขับถ่ายและล้างพิษออกจากร่างกาย ผลิตภัณฑ์ทุกชนิดใช้พืชและสมุนไพรไทย อาทิ สมอไทย สมอเทศ สมอพิเภก มะขามป้อม มะตูม ลูกยอ ขมิ้น ฯลฯ เป็นวัตถุดิบ จึงไม่ต้องกังวลเรื่องสารพิษตกค้างหรือผลข้างเคียงจากสารเคมี

                "แนวโน้มคนหันมาสนใจใช้สมุนไพรไทยกันมากขึ้นเพราะว่าผลข้างเคียงน้อยและเป็นการรักษาที่ต้นเหตุ ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถหาเองได้โดยไม่ต้องเสียเงินมาก หาซื้อได้ในราคาถูก หรือปลูกเองก็ได้ บางอย่างก็หาได้โดยไม่ต้องซื้อ ถือว่าเป็นของดี ราคาถูกในยุคที่ภาวะเศรษฐกิจไม่ค่อยดี" แน่นอนว่า ข้อควรระมัดระวังในการใช้สมุนไพรก็มีเหมือนกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องเรียนรู้และใช้ให้เป็น บางอย่างทานมากไปก็จะเกิดอาการไม่สบายตัว แต่ก็มีสมุนไพรที่ใช้แก้กัน หรือใช้ขับพิษได้ ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถไปเยือนบ้านอโรคยาเพื่อพูดคุย สอบถามหรือขอคำปรึกษาได้ หรือสนใจศึกษาเรื่องพืชสมุนไพรที่เธอปลูกไว้เป็นร้อยชนิดบนพื้นที่เกือบ 400 ตารางวาก็ได้เช่นกัน สามารถโทร.สอบถามเส้นทางหรือนัดหมายล่วงหน้าได้ที่โทร 0-2733-6001,0-2738-7144 หรือ 081-3431527

                ก่อนจากกันคุณศรีฟ้าเน้นว่า ถ้าหากจะป้องกันตัวเองไม่ให้เจ็บป่วย ก็ต้องกินให้เป็นและใช้ชีวิตให้เป็น รักษาอารมณ์ให้ดี ไม่วิตกกังวลจนเกินไป เพราะอารมณ์หรือจิตใจมีผลต่อสุขภาพถึง 70% ถ้าทำได้ บ้านของคุณเองก็จะเป็นบ้าน "อโรคยา"หรือบ้านที่ปลอดภัยห่างไกลโรคได้เหมือนกัน

 

น้ำสมุนไพรถอดรหัสภูมิปัญญาจาก

พระไตรปิฏก

 

 (porduct) 2009513_14205.jpg

   

ถอดรหัส!!พระไตรปิฏก

        สัปดาห์นี้กานพลูชวนกลับไปพูดคุยกับพี่ศรีฟ้า ชวนนทกิจ เจ้าของบ้านดินและบ้านอโรคยากันต่อ ว่าด้วยการหมัก บ่มผลไม้เป็นเวลากว่า 6 ปีก่อนที่จะนำมาปรุงเป็นยาสมุนไพรหลากหลายชนิด อาทิ น้ำลูกยอเข้มข้น กระชายดำเข้มข้น น้ำยาบ้วนปากสมุนไพรและจตุผลาธิกะ ซึ่งเป็นสมุนไพรที่ถอดรหัสภูมิปัญญาจากพระไตรปิฏกเชียวค่ะ มาดูกันว่ากว่าจะมาเป็นยาสมุนไพรสีสวย ไร้สารพิษ รสชาติดี และมีคุณภาพเต็มเปี่ยมจนชาวต่างชาติมาขอวิจัยไปผลิตบ้างนั้นมีอะไรดีเอ่ย

      เริ่มต้นกันที่น้ำยาบ้วนปากสมุนไพร สูตรกานพลูผสมกับเกล็ดสาระแหน่ที่หอมซ่า เย็นชื่นใจนี่แหละค่ะ ที่ทำให้กานพลูดั้นด้นไปถึงบ้านอโรคยา จึงได้พบว่าที่นี่ไม่เพียงแต่มียาสมุนไพรตัวนี้เท่านั้น แต่ยังมีมากมาย หลายขนาน สมชื่อว่า บ้านอโรคยาเลยค่ะ แล้วสูตรนี้ที่มีกานพลูเป็นส่วนผสมก็ไม่ใช่นำตัวผู้เขียนไปผสมนะคะ ตัวผู้เขียนเนี่ยไม่มีประโยชน์อะไรเลย นอกจากก่อกวนผู้อื่นไปวันๆเท่านั้นแหละค่ะ

      พี่ศรีฟ้าเล่าว่า เริ่มจากตอนแรกคือทำไว้ใช้เอง แล้วเพื่อนเป็นหวัด เจ็บคอก็ลองให้เขาใช้ เขาบอกว่าใช้อมครั้งเดียวหายเจ็บคอนะ ดีมากเลย เขาบอกว่าให้ทำขายสิ ก็เลยคิดว่าก็ดีเหมือนกัน

      อันเนื่องมาจากพี่ศรีฟ้าเรียนจบมาทางด้านแพทย์แผนไทยของกระทรวงสาธารณสุข และคุณปู่ของพี่ศรีฟ้าก็เป็นหมอ อีกทั้งทุกคนในครอบครัวไม่ชอบหาหมอ ก็เลยอาศัยตู้ยาบนดินเป็นกัลยาณมิตรในการดูแลสุขภาพของคนในบ้านมาโดยตลอด เมื่อมาถึงรุ่นหลานคือพี่ศรีฟ้าก็จะมีวิชาติดตัวไม่น้อย อย่างเช่นกว่าจะมาเป็นน้ำยาบ้วนปากสมุนไพรตัวนี้

      "เริ่มต้นก็สงสัยว่าทำไมเราต้องเอากานพลูมาเคี้ยวๆเวลามีกลิ่นปาก ทำให้ซ่าๆในปากและทำให้หายมีกลิ่นปากก็เอ๊ะ น่าจะนำมาหมักแล้วสกัดออกมาทำเป็นน้ำยาบ้วนปากมันจะสะดวกกว่าไหม รสชาติก็จะดีกว่าด้วย จากนั้นก็นำมาปรุงผสมกับเกล็ดสะระแหน่เพื่อปรุงให้รสชาติดี ใช้ง่าย"

      สำหรับหัวเชื้อที่นำมาผสมนั้นมาจากน้ำผลไม้อะไรก็ได้หมักไว้ประมาณ 6ปีเชียวค่ะ เป็นการหมักธรรมชาติ โดยมีส่วนผสมคือ น้ำ น้ำผึ้ง และผลไม้ แล้วนำมาหมักกับกานพลู มาผสมกับเกล็ดสะระแหน่

      "จริงๆแล้วกานพลูตัวเดียวก็เจ๋งแล้ว แค่นำดอกมาเคี้ยวๆก็ไม่มีกลิ่นปากและทำให้ฟันกระชับ มันจะฆ่าเชื้อโรคในปาก ส่วนเกล็ดสะระแหน่ทำให้ซ่า เป็นน้ำยาบ้วนปากและดื่มได้ แก้ปวดท้อง ขับลม"

      สำหรับ น้ำลูกยอเข้มข้น ของที่นี่เป็นสูตรต้นตำรับด้วยค่ะ ทำมาก่อนใครๆจะมาฮิตผลิตมาเป็นสิบปีแล้วค่ะ แถมรสชาติดีอีกต่างหาก แต่กลับไม่ดัง ไปดังที่อื่น พี่ศรีฟ้าเล่าว่า เป็นเพราะคุณภาพใช้ดีแล้วเขาไปบอกต่อและไปสอนให้ที่อื่นเขาทำแล้วคนกินเขาชอบเพราะรสชาติดี พอดีกับโนนิเข้ามาก็เลยดังเลย แต่โนนิแพงมาก สู้ลูกยอบ้านเราไม่ได้

      น้ำลูกยอสูตรบ้านอโรคยา มีส่วนประกอบสำคัญคือ ลูกยอ(คัดพิเศษ) 80% น้ำผึ้งแท้ (ควบคุมความชื้น) 10% มะขามป้อม มะตูมและผลไม้อื่นๆ 10% วัตถุดิบทั้งหมดไร้สารพิษ สกัดด้วยวิธีธรรมชาติและปราศจากวัตถุกันเสียผ่านการวิเคราะห์จาก กรมวิทยาศาสตร์บริการค่ะ

          สำหรับสรรพคุณมีแคลเซียมสูง บำรุงกระดูก ขับระดู ขับลมในลำไส้ ขจัดสารพิษในเซลล์ มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยฟื้นฟูและซ่อมแซมส่วนที่เสื่อมโทรม กระตุ้นภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงขึ้น ปรับสมดุลความดันโลหิตด้วยค่ะ

         ส่วน จตุผลาธิกะ น้ำสมุนไพรที่ถอดรหัสจากพระไตรปิฏกนั้น ประกอบด้วยสมอไทย สมอเทศ สมอพิเภก มะขามป้อม มีสรรพคุณล้างพิษขับเมือกในสำไส้ ขับเสมหะ แก้ท้องผูก แก้สิวฝ้า ทำให้ผิวพรรณสดใส รับประทานเป็นประจำสุขภาพองค์รวมไม่เจ็บป่วย

       พี่ศรีฟ้าแนะนำว่าในสมัยพุทธกาลใช้จตุผลาธิกะเป็นยากลางบ้าน ช่วยขับพิษออกหมดเลย ขับถ่ายกินยาตัวนี้ตัวเดียวก็แทบจะรักษาครอบจักรวาลแล้ว อีกทั้งยังเหมาะที่จะนำไปถวายพระ เพราะพระส่วนใหญ่จะท้องผูก เป็นยาช่วยค่อยๆระบายอย่างดีค่ะ

      หลังจากเดินชมโรงหมัก โรงบ่มหัวเชื้อผลไม้ที่สะอาดสะอ้าน และชมเรือนไม้อโรคยาที่เลี้ยงปลาไว้รอบบ้าน พี่ศรีฟ้าก็พาชมสวนสมุนไพรซึ่งอยู่ในทุกส่วนของบ้าน ราคาของยาสมุนไพรที่นี่ เป็นราคาบุญนิยมค่ะ ขายในราคาไม่แพง พี่ศรีฟ้าบอกว่าเราแค่พออยู่พอกิน ไม่ต้องไปกินของนอกราคาขวดหนึ่งเป็นพันสองพัน มากินของบ้านเราเองราคาขวดละ 40-50 บาท แต่เราก็ทำขายไม่มากมาย ทำเป็นธุรกิจใหญ่โตไม่ได้ เพราะหมักผลไม้ไร้สารไว้เป็นหัวเชื้อนานมาก ตั้ง 6 ปี

      กิจวัตรยามเช้าของพี่ศรีฟ้าคือการเดินไปตามทางในสวน แล้วเก็บผักเก็บหญ้าเป็นทั้งอาหารเป็นทั้งยา ไม่ต้องไปซื้อข้างนอกเลยค่ะ.

แวะเวียนไปชิมสมุนไพรกันได้ที่บ้านอโรคยา

65/44 ซอยนวมินทร์44 ถนนนวมินทร์ แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กรุงเทพฯ 02-7336001

Advertising Zone    Close

Online: 1 Visits: 184,318 Today: 8 PageView/Month: 397

ด้วยความปราถนาดีจาก "สยามทูเว็บดอทคอม" และเพื่อป้องกันการเปิดเว็บไซต์เพื่อหลอกลวงขายของ โปรดตรวจสอบร้านค้าให้แน่ใจก่อนตัดสินใจซื้อของทุกครั้งนะคะ    อ่านเพิ่มเติม ...